Tags
Result of 30 Days Photography Challenge
30 Monday Jun 2014
Posted Photos
in30 Monday Jun 2014
Posted Photos
inTags
26 Saturday Apr 2014
Posted by windygallery | Filed under Photos
25 Friday Apr 2014
Posted Photos
inได้มีโอกาสไปทำงานที่ปักกิ่ง (ประเทศจีน) เป็นครั้งแรกครับ
เจออะไรหลายอย่างที่น่าสนใจเลยจดบันทึกไว้เผื่อมีประโยชน์วันหลัง
รถ taxi ขนาดกลางๆ(ไม่ใหญ่ไม่เล็ก)สภาพไม่ใหม่เท่าไหร่แต่เหยียบกันเร็วมาก
ขับจากสนามบินเข้าใจกลางปักกิ่ง 90-100 km. ตลอดทาง
ที่นี่คนขับอยู่ฝั่งซ้าย ถนนวิ่งเลนขวา (งงๆเล็กน้อย)
มี printer เอาไว้พิมพ์ใบเสร็จติดรถกันทุกคัน ดูไฮโซดี
taxi ที่นี่เริ่มต้นที่ 13 เหรียญ (3 km. แรก) และบวก ทุก 1 km.
ถนนกว้างมวาาาาาาากกกกกกก… (เมื่อเทียบกับถนนในเมืองหลวงบ้านเรา)
และตึกในโซนใจกลางเมืองหลวง scale ใหญ่สลัดๆ
แต่ละตึกกะด้วยสายตาเดินกันมีเมื่อย!
ไม่รู้จะออกแบบให้ใหญ่ไปไหน
พระราชวังต้องห้ามสเกลใหญ่มากกกกกกกก
เดินกันน่องปูด น่องร้าวว แต่ไม่มีเหงื่อซักหยด (เพราะอากาศเย็นมาก)
ต้นไม้ด้านหน้าน้อยมาก แต่ด้านหลังพอมี
แดดเยอะแต่ไม่ค่อนร้อน เพราะอากาศเย็น
คนเยอะมาก…
แต่ทัวร์ที่นี่ก็แก้ปัญหาคนหลงได้ด้วยการใช้หมวก(คนละสี)
มีไกด์แบบอัตโนมัติด้วยนะ track ตำแหน่งที่เราอยู่จาก GPS แล้วก็เล่าเป็นฉากๆไปตาม
สิ่งก่อสร้างที่อยู่ใกล้เรา แต่ที่เซ็งคือพอเดินหลุดเขตปั๊บมันตัดเสียงไปเล่าเรื่องที่ใหม่เลย (- -‘)
พอพ้นเขตวัง
บ้านเรือนทั่วไปความสูง 1 ชั้นเป็นส่วนใหญ่
คนที่นี่ชอบกินโยเกิร์ตขวดขาวมาก (ลองแล้วไม่นิยม เพราะไม่ปกติกินโยเกิร์ต แต่คนอื่นว่าโอเค)
ตกดึกมีเห็นตั้งวงเตะ+ตบตะกร้อ(ประมาณลูกแบต+ปิงปอง+ลูกขนไก่และตระกร้อ)
สูบบุหรี่กันเยอะพอสมควร บารากุก็เริ่มมีตามผับ
คนเดินมาชวนเข้าร้านเยอะและตื้อเหมือนกันเป็นสไตล์เฉพาะตัวของที่นี่เลย
ขับรถกันงงๆ จอดริมถนนดูง่ายแต่ก็เป็นระเบียบ
คนที่นี่บีบแตรเหมือนแค่บอกเตือนกันเบาๆ ไม่เหมือนบ้านเราที่บีบแตรเหมือนด่าแม่
จักรยานเป็นที่นิยม แต่จักรยานติดมอเตอร์ไฟฟ้านี่ฮ๊อตมาก
ค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินของเขา ครั้งละ 2 หยวน (ประมาณ 10 บาท! ถูกมาก)
แต่รถเมล์เขาหยวนเดียว! :O
รถเมล์ที่นี่เป็นรถเมล์ไฟฟ้ามีหางไปเกี่ยวสายไฟข้างบนที่โยงอยู่เหนือถนน
ในวนหยุดรถโล่งมาก วื่งทำความเร็วในดี (เวลาวิ่งบนถนนสายที่ไม่มีสายไฟก็พับเก็บได้ด้วย)
รถเมล์ที่นี่ใซส์ใหญ่กว่าบ้านเรา หรือไม่ก็เป็นรถสองตอน
เวลาขึ้นจะขึ้นตรงกลางรถ จะมีพนักงานเก็บตังค์ยืนอยู่ตรงข้างประตูกลาง
แล้วเวลาออกก็เดินไปลงประตูด้านหน้ารถ
เวลารอขึ้นรถก็จะมีเส้นบอกว่าเป็นแถวของรถเมล์สายไหน ดูเป็นระเบียบดี
รถยนต์ส่วนที่นี่มีหลายยี่ห้อ hundai, honda, mercedez, wolksken
ไม่ค่อยเห็น toyota, ford
สินค้าแบรนด์ราคาแพงกว่าบ้านมากกกกกกกก เช่น พวกนาฬิกาทั้งหลายแหล่
เสื้อผ้ายูนิโคล่แพงกว่าบ้านเรานิดหน่อย
มือถือและ notebook ของ Lenovo แพงมวากกก
ตั้งใจจะไปเดินหาซื้อ xiaomi แต่หาไม่เจอ
เดินดูมือถือ Samsung เห็นราคาก็ซื้อไม่ลง
สรุปซื้ออะไรเล่นไม่ได้เลย (ของบ้านเราราคาน่าโดนกว่ามาก)
Internet ที่นี่เข้า facebook, twitter, youtube, ingress, wordpress ไม่ได้
วิธีเลี่ยงแบบนึงคือ Roaming กลับไทย
สำหรับเรื่องอาหารการกิน
อาหารใน food course บนห้างประมาณ 20 หยวน (ร้อยบาทนิดๆ)
ปริมาณให้เยอะใช้ได้ แต่รสชาติไม่น่ากลับมาซ้ำอย่างแรง
ขอบคุณ Macdonald ที่ช่วยรักษาชีวิตไว้
(หลอดเขาออกแบบให้แคบมากๆเพื่อให้ดูดน้ำเต้าหู้ที่ร้อนมากได้ปริมาณน้อยๆจะได้ไม่ลวกลิ้น)
ไม่เห็นขนมพวกโดนัทอย่างดังกิ้นกับไอติมแบบ swensense เลย
เห็นแต่พวกน้ำแข็งใสใส่สีๆ ไม่ค่อยน่าทาน เลยไม่ได้ลอง
เป็ดปักกิ่งอร่อยดี!
น้ำชา(เก็กฮวย)+น้ำตาลก้อนกรวดอร่อยมากกกก
ไอติม 7 หยวน (มั้ง ถ้าจำไม่ผิด)
อร่อยอยู่นะ :P—
อาหารแปลกๆเพียบ #ไม่กล้าลอง
อันสุดท้ายนี่แนะนำๆ #หวังเหล่าจี่ อร่อยดีๆ #เห็นเพื่อนบอกว่าเข้าไทยมาแล้ว
อาหารเสฉวนอร่อยดี #มันส์ไปหน่อยแต่โออยู่
(*) สำหรับที่ปักกิ่ง ผู้ให้บริการเสริฟอาหารจะไม่รับเงินทิปนะครับ
เพราะเขาถือหน้าที่ในงานอยู่แล้ว เท่าที่เจอมาพนักงานเต็มใจให้บริการอย่างดีเยี่ยม
(ไปนั่งทานอาหารในร้านแฟรนไชน์ของญี่ปุ่น บางอย่างผมผสมเครื่องปรุงไม่ถูก
เขาก็มาช่วยดูแลและแนะนำวิธีปรุงให้อย่างดี)
แวะไปเดินเที่ยวชมหอสักการะฟ้า เทียนถัน
ตอนกำลังจะกลับเดินผ่านโซนก้อนหินที่ทำคล้ายลูกอุกาบาตเจ็ดลูก
เจอบรรยากาศนี้เข้าไปครับ
บรรยากาศเศร้ามาก
หมายเหตุผมอ่านและฟังภาษาจีนไม่ออก แต่เดาว่าเป็นที่ๆเขาประกาศตามหาคนหายกัน
ดูรูปแล้วเป็นช่วงคนอายุวัยรุ่น – วัยทำงานทั้งนั้นเลย (ดูจากเลขปีเกิด 198X และรูปถ่าย)
และสรุปสุดท้าย สาวไทยชนะเลิศครับ!
ซมซานกลับบ้านมาหาอาหารไทยกินเหมือนเดิม TvT
ทริปหน้าไปไหนดี? 🙂
17 Thursday Apr 2014
Posted Photos
inTags
09 Wednesday Apr 2014
Posted Photos
inTags
05 Saturday May 2012
Posted Photos
in26 Thursday Aug 2010
31 Tuesday Mar 2009
Posted Photos
inเคยเขียนเรื่องการแต่งรูปด้วย PS ไว้นานแล้ว
เอามาโพสเก็บไว้ เผื่อเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง
ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าไม่ได้เซียนอะไรอย่างใครเขา
แถมใช้เครื่องมือเป็นจริงๆก็ไม่กี่อย่าง
นอกนั้นก็มั่วๆแถเอามาตลอด
เน้นอุปกรณ์น้อยแต่ใช้งานเยอะเข้าว่า
มันก็จะคล่องและชินมือไปเอง
ดังนั้น ถ้าให้ผมเริ่มแนะนำ
เอาเบสิกๆ ที่ใช้งานได้จริงกันก่อนดีกว่านะครับ (^^”)>
ถ้าจะให้เลือกความสามารถซักอย่างใน Photoshop มาซักอัน
หนึ่งอาวุธสุดยอดสำหรับการแต่งรูปของผม
ผมคงยกให้ Curve เป็นอาวุธอันแรกที่ผมมักจะใช้ (always)
ความสามารถหลักๆของมันก็คือ การปรับสีโดยรวมของภาพ
จากที่ถ่ายมาได้รูปเน่าๆตุ่นๆ ให้กลายเป็นสีสันสดใสขึ้น
ได้ในพริบตา
(^^) ฟังดูดีใช่มั๊ยครับ
อย่าเสียเวลาเลย เอาตัวอย่างมาดูกันดีกว่า
(โม้นาน เดี๋ยวทำไม่ได้ล่ะยุ่งเลย 55+)
สมมุติว่าผมมีรูปถ่ายตุ๊กตาโดเรมอนอยู่รูปหนึ่ง
ซึ่งบังเอิญไปถ่ายมาได้ด้วยสภาพแสงน้อย
รูรับแสงกว้าง ความชื้นสัมพันธ์ต่ำ
สภาพคล่องในกระเป๋าตังค์มีน้อย (จะบอกทำไม ?)
เอาเป็นว่า ถ่ายมาได้รูปแบบนี้ล่ะ
ซึ่งก็ดูเกือบจะดีแล้ว
แต่มันยังไม่ถูกใจวัยรุ่นซึ่งชอบสีสันสดใส
ประหนึ่งดอกทานตะวันต้องการแสงแดดยามเช้า
(เวอร์ไปนั่น)
ทำไงดีล่ะครับ
คำตอบ: ง่ายมาก
เพียงคุณเปิดรูปด้วยโฟโต้แฉ่บ 😛
แล้วกด Ctrl+M (ทำเป็นไฮโซใช้คีย์ลัด :P)
หรือจิ้มที่เมนู Image->Adjustments->Curves..
คุณก็จะได้หน้าต่างหน้าตาแปลกๆเพิ่มมาอีกหนึ่งหน้าต่าง
หน้าตาประมาณนี้…
สิ่งต่อไปที่คุณต้องทำก็คือ
กดเมาส์ลากเส้นทแยงมุมในกรอบให้เบี้ยวไปประมาณรูปที่เห็น
โดยคุณจะสังเกตเห็นสีสันของรูปคุณเปลี่ยนไปตาม
อยากได้แบบไหนลากเอาตามมันส์ส่วนตัวได้ครับ
แต่ถ้าสำหรับมือใหม่หัดเบี้ยว
ผมมีข้อแนะนำง่ายๆ คือ พยายามลากให้มันเป็นโค้ง
เป็นแนวตัว s เอียงเหมือนตัวอย่าง แล้วจะดีเอง
(*) คำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับคนอยากรู้ลึกๆ
ถ้าใครกลัวปวดหัวก็อ่านข้ามไปได้ครับ
การปรับเส้นกราฟของ Curves นี่จริงๆแล้ว
เป็นการคำนวณค่าสีใหม่จากสีเดิมครับ
ถ้าสังเกตข้างๆกรอบของกราฟ จะเป็นแถบขาวดำ(ไล่สี)
อยู่สองแถบ โดยแถบแนวนอนจะแทนสีเดิมในรูป
และแถบแนวตั้งจะแทนสีใหม่ในรูป
จากลากเส้นเปลี่ยนลักษณของกราฟ จะทำให้จุดตัดที่ลากขึ้น
จากแถบแนวนอนไปตัดเส้นกราฟแล้วชิ่งไปหาแถบทางซ้าย
เพื่อแทนด้วยค่าสีใหม่
แล้วโปรแกรมก็จะทำการแทนค่าสีแบบนี้ทั้งภาพจนได้
ภาพใหม่แบบที่เรามองเห็นๆกันอยู่นี่เอง
สำหรับคนที่สงสัยว่าทำไมต้องเป็น s-curve
อธิบายง่ายๆก็คือ เราเพิ่มความสว่างให้สีโซนสว่างให้มากขึ้น
แล้วลดความสว่าง(ทำให้มืด) ในส่วนที่สีควรจะมืด(หรือเข้ม)
ผลลัพธ์ที่ออกมา ถ้าพูดง่ายๆก็คือ สีสันส่วนใหญ่สดขึ้น
เพราะจริงๆมันเป็นการเพิ่ม Contrast ของภาพนั่นเองครับ
ถ้าปรับแต่เพียงพอดีก็คงไม่มีปัญหาอะไร
แต่ถ้าหากปรับมากเกินคุณอาจจะได้รูปสีฉูดฉาดเกินจำเป็นเช่น
ไม่รู้ว่าถ้าเป็นข้าวจริงๆจะยังกินลงกันมั๊ย ?
(^^”)
แต่กับบางรูปการปรับ curve จัดๆก็ช่วยเร่งสี
ให้ดูโดดเด่นขึ้นมาได้เหมือนกัน (แต่ไม่ทุกรูปนะ)
เช่น รูปนี้ (ดอกพญาเสือโคร่ง จ.น่าน)
ดอกลิลลี่ – จ. เชียงราย
ที่เหลือนอกนี้เป็นตัวอย่าง ก่อนและหลังการปรับ curve อย่างเดียวครับ
(หมายเหตุแค่นี้ก็ใช้หากินได้หลายแล้ว :P)
ทำให้หมาเหงา เหง๊าาา เหงา แบบสะอาดได้ด้วย 😛
ทำให้ป่าแห้งๆ หวานขึ้นมาจับใจได้ด้วย !!?
เร่งสี เร่งอารมณ์ !!
ไม่หวั่นแม้วันมืดมิด !!
ในกรณีที่สีที่ได้จากกล้องมาไม่ค่อยชัด
เราก็สามารถเร่งสีเร่งวุ้นได้แบบนี้ (ไม่ใช่ปลาทอง :P)
สำหรับบางรูปถ้าคุมกราฟดีๆ จะเปลี่ยนอารมณ์ของภาพได้เยอะเลย เช่นรูปนี้
หวังว่าจะใช้ประโยชน์กันได้บ้างนะครับ (^^)>
ps. ส่วนเรื่อง Dogde กับ Burn เอาไว้วันไหนมีตัวอย่างดีๆ
ค่อยมาสอนกันอีกทีล่ะกันเนอะ
ps2. คำเตือนกรุณาเก็บไฟล์ original แยกไว้ก่อนทำรูปเสมอ (แล้วจะหาว่าไม่เตือน)